สธ.เผยผลตรวจยืนยันเด็กที่พิษณุโลก ไม่ใช่เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ - Health News, H1N1 2009

Friday, May 15, 2009 at 4:15 PM

กระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ล่าสุด ไทยมีผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อจากต่างประเทศ 2 รายเท่าเดิม แต่แนวโน้มจำนวนผู้ป่วยในข่ายเฝ้าระวังจะมากขึ้น เป็นผลมาจากความรู้ของประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศ ที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ประชาชนไม่ต้องตกใจ เผยผลตรวจยืนยันเด็กที่พิษณุโลก ที่มีไข้หลังกลับจากเม็กซิโก พบติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ทั่วไป และวันนี้ได้เปิดวอร์รูมควบคุมโรคชิคุนกุนยาเพิ่มอีก 1 โรค

นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการเตรียมพร้อมตอบโต้ภาวะ ฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข เมื่อเช้าวันนี้ (15 พฤษภาคม 2552) ที่กระทรวงสาธารณสุข ว่า จากการประเมินสถานการณ์แนวโน้มการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิด เอ เอช 1 เอ็น 1 ทั่วโลก องค์การอนามัยโลกรายงานว่าเช้าวันนี้ (ตามเวลาประเทศไทย) มีผู้ป่วยใน 33 ประเทศเท่าเดิม จำนวน 6,497 ราย เสียชีวิต 65 ราย ไม่มีประเทศใหม่ที่พบผู้ป่วยยืนยัน มี 9 ประทศที่จำนวนผู้ป่วยไม่เพิ่มขึ้นในรอบ 7 วัน ได้แก่ อิสราเอล ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ เดนมาร์ก เกาหลีใต้ ไอร์แลนด์ โปรตุเกสและโปแลนด์ ส่วนไทย ยังคงมีผู้ป่วยยืนยันเท่าเดิม 2 ราย โดยติดเชื้อจากต่างประเทศและรักษาหายขาดแล้ว จากการเฝ้าระวังทั่วประเทศต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ยังไม่พบรายใหม่เพิ่ม แต่มีผู้ป่วยที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวัง อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคและดำเนินการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งล้วนเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ จำนวน 15 ราย

สำหรับรายที่จังหวัดพิษณุโลกตามที่เป็นข่าว ซึ่งเป็นเด็กที่เดินทางกลับจากประเทศเม็กซิโก และมีอาการป่วยหลังเดินทางกลับถึงบ้าน ทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วได้ทำการติดตามอาการและรับตัวเข้ารักษาในโรง พยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2552 ขณะนี้อาการหายเป็นปกติแล้ว ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ทั่วไป ไม่ใช้เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เช่นเดียวกับชายวัย 68 ปีที่อยู่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา หลังเดินทางกลับสหรัฐเอมริกา ผลการตรวจยืนยันเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ทั่วไปเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มจำนวนผู้ป่วยในข่ายเฝ้าระวังจากนี้ไปจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งไม่ใช่หมายถึงมีการติดเชื้อหรือมีการแพร่กระจายเชื้อเพิ่มขึ้น แต่เป็นผลมาจากการที่ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจและเดินเข้ามาขอรับการตรวจ รวมถึงระบบการค้นหาผู้ป่วยของเจ้าหน้าที่ร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุข ประชาชนไม่ต้องตกใจ การค้นหาได้เร็วจะเป็นผลดีต่อการควบคุมป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ เพราะโรคดังกล่าวติดต่อกันง่ายทางการไอจาม แต่รักษาให้หายขาดได้ ตลอดจนมีภูมิต้านทานโรคดังกล่าวโดยกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความรู้การป้องกัน โรค และการดูแลผู้ป่วยทั้งไข้หวัดใหญ่ทั่วไปตามฤดูกาล และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ตามมาตรฐาน ซึ่งจะมีผลให้อัตราป่วยและอัตราตายลดลง และขอความร่วมมือประชาชนหากเป็นไข้ มีน้ำมูก ไอ จาม ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดสายพันธุ์ใด ขอให้คาดหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่สู่คนอื่น และปฏิบัติให้เป็นนิสัย ส่วนประชาชนทั่วไปขอให้ยึดหลักปฏิบัติตัวคือ ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง กินอาหารขณะร้อนๆ ใช้ช้อนกลางตักอาหาร และล้างมือบ่อยๆ เพื่อกำจัดเชื้อที่ติดมากับมือ ซึ่งได้ผลถึงร้อยละ 80

ทางด้านนายแพทย์หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์การรักษาผู้ป่วยที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งด้านวิชาการระบุว่า จะมีผู้ป่วยที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังและรับไว้ดูแลรักษาในโรงพยาบาลมากขึ้น ถือเป็นเหตุการณ์ปกติในระบบการเฝ้าระวังป้องกันโรคที่

เคร่งครัด ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้สำรองยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ไว้รักษากว่า 4 ล้านเม็ด โดยได้กระจายให้สำนักงานควบคุมป้องกันโรคประจำเขต 12 เขต แห่งละ 4,000 เม็ด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแห่งละ 2,000 เม็ด โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป แห่งละ 1,000 เม็ด และโรงพยาบาลชุมชน แห่งละ 100 เม็ด และใช้ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดกรอบแนวทางไว้ เพื่อป้องกันเชื้อดื้อยา และทางด้านวิชาการยังได้เตรียมสำรองยาต้านไวรัสตัวใหม่ คือ ยาซามามิเวียร์ (Zamamivir) ชนิดพ่นทางจมูก อีกจำนวน 30,000 ขวด ซึ่งต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ ใช้งบประมาณ 15 ล้านบาท

นายแพทย์หม่อมหลวงสมชาย กล่าวต่อว่า ในวันนี้กรมควบคุมโรคได้ให้ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์ และสาธารณสุข กรมควบคุมโรค เพิ่มการเฝ้าระวังโรคชิคุนกุนยา ซึ่งกำลังแพร่ระบาดครั้งใหญ่ใน 15 จังหวัด ส่วนใหญ่อยู่ในเขตภาคใต้ เพิ่มอีก 1 โรค พร้อมทั้งกำชับให้ศูนย์ป้องกันควบคุมโรคในเขตภาคใต้ คือที่สงขลาและนครศรีธรรมราช รายงานสถานการณ์และร่วมประชุมเพื่อวางแผนแก้ไขอย่างทันท่วงที โดยให้ส่งหน่วยสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว ค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ ร่วมกับอสม.ในหมู่บ้าน ไม่ต้องให้มีผู้ป่วยก่อน


********************************15 พฤษภาคม 2552

Related Posts:

Thai Health Article (Thailand) | RSS Subscribe | Go to top