สธ. เผยผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย มีโรคประจำตัวและมีภาวะเสี่ยง - Influenza A(H1N1)

Wednesday, July 1, 2009 at 11:00 PM


กระทรวงสาธารณสุข แถลงมีผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่วันนี้ เพิ่มอีก 2 ราย เป็นชายวัย 45 ปี และหญิงอายุ 15 ปี เป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวและมีภาวะเสี่ยง รวมถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 5 ราย อัตราป่วยตายของไทยยังคงอยู่ในระดับเดียวกับทั่วโลก

บ่ายวันนี้ (1 กรกฎาคม 2552) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์ศุภมิตร ชุณห์สุทธิ์วัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค และแพทย์หญิงวารุณี จินารักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี ร่วมกันแถลงข่าว ผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 รายที่ 4 และ 5 ของประเทศไทย

โดยผู้เสียชีวิตรายที่ 4 เสียชีวิตที่โรงพยาบาลชลบุรี เมื่อเวลาประมาณ 10.45 น. วันนี้ เป็นหญิงวัย 15 ปี เริ่มป่วยด้วยไข้สูงตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2552 ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลอ่าวอุดม แพทย์รับไว้รักษาในโรงพยาบาล พร้อมทั้งให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์และยาปฏิชีวนะอีกหลายชนิด แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลชลบุรี เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2552 ผู้เสียชีวิตรายนี้มีโรคประจำตัวหลายโรค ได้แก่ เนื้องอกในสมอง เบาหวาน เบาจืด และโลหิตจางชนิดเม็ดเลือดขาวต่ำ ทำให้มีภูมิต้านทานโรคต่ำ แพทย์ได้ให้การดูแลรักษาอย่างเต็มที่ แต่อาการทรุดลงเรื่อยๆ และเสียชีวิตในที่สุด

รายที่ 5 เสียชีวิตที่โรงพยาบาลราชวิถี เมื่อช่วงสายวันนี้ เป็นชายวัย 45 ปี มีประวัติดื่มสุราอย่างต่อเนื่อง เริ่มป่วยด้วยอาการไข้สูงตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2552 มาโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2552 ตรวจพบมีภาวะปอดบวม หายใจเหนื่อยหอบ แพทย์รับไว้รักษาในโรงพยาบาล และให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ทันที หลังจากนั้นผู้ป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีภาวะปอดบวมมากขึ้น หายใจหอบเหนื่อย ความดันโลหิตลดต่ำลง แพทย์จึงย้ายเข้าห้องไอซียู และใช้เครื่องช่วยหายใจชนิดพิเศษ ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนในร่างกาย พร้อมทั้งให้ยาควบคุมความดันโลหิต ในวันรุ่งขึ้นผู้ป่วยอาการดีขึ้นเล็กน้อย ต่อมาเริ่มมีภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ แพทย์ให้ยาควบคุมการทำงานของหัวใจ ต่อมามีภาวะหัวใจเต้นผิดปกติมากขึ้น ต้องใช้เครื่องกระตุ้นการทำงานของหัวใจ 2 ครั้ง ความดันโลหิตยังคงลดต่ำลง อาการอยู่ในขั้นวิกฤต ทีมแพทย์ได้ให้การรักษาอย่างเต็มที่ และแจ้งอาการให้ญาติทราบเป็นระยะ ซึ่งญาติมีความเข้าใจเป็นอย่างดี

นายวิทยา กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขขอแสดงความเสียใจกับญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย และขอยืนยันว่า ทีมแพทย์ได้ให้การรักษาตามมาตรฐานสากล อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความรอบคอบได้ให้ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการ เก็บข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดของผู้ป่วยทั้งที่หายดี ผู้ที่ป่วยหนักและเสียชีวิต มาวิเคราะห์การดำเนินของโรค รวมทั้งความรุนแรงของเชื้อ เพื่อวางแผนและปรับมาตรการในการป้องกันดูแลและรักษาให้เหมาะสม ทั้งนี้ ในทางวิชาการอาจจะพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกได้ ตามจำนวนผู้ป่วยที่พบมากขึ้นเรื่อยๆ แต่อัตราป่วยตายยังอยู่ในระดับเดียวกับทั่วโลก และขอยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขจะพยายามทุกวิถีทางที่จะลดจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตให้ได้มากที่สุด โดยรณรงค์ให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อและไม่แพร่เชื้อเมื่อมีอาการป่วย

ด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการในการดูแลรักษาประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ขอให้ประชาชนมั่นใจ โดยขณะนี้ทุกโรงพยาบาลได้จัดช่องทางด่วนสำหรับผู้ป่วยที่สงสัยว่าจะป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ มีระบบการคัดกรองเป็นการเฉพาะแยกจากผู้ป่วยทั่วไป รวมทั้งมีห้องแยกที่เป็นระบบปิดในโรงพยาบาลทุกแห่ง เพื่อไม่ให้มีการแพร่เชื้อออกไปสู่ภายนอก ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกเมื่อ 3-4 ปีก่อน ทั้งนี้ ประชาชนที่ป่วยเป็นไข้หวัด หากมีไข้สูง หายใจเหนื่อยหอบ ขอให้รีบมาพบแพทย์

*************************************1 กรกฎาคม 2552

Related Posts:

Thai Health Article (Thailand) | RSS Subscribe | Go to top