จุรินทร์ตั้งเลขาธิการ ก.พ.เป็นประธานสอบวินัยข้าราชการโครงการไทยเข้มแข็งสธ. - อาหารและสุขภาพ, Health channel

Monday, January 25, 2010 at 5:05 PM

จุรินทร์ตั้งเลขาธิการ ก.พ.เป็นประธานสอบวินัยข้าราชการโครงการไทยเข้มแข็งสธ. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข ที่ถูกชี้มูลในโครงการไทยเข็มแข็งในผลการสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการชุดนายแพทย์บรรลุ ศิริพาณิช ว่า ภายในวันนี้จะลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอ...
วันที่ 25 ม.ค 2553
(อาหารและสุขภาพ, Health channel, Health nutrition, Health article)

จุรินทร์ตั้งเลขาธิการ ก.พ.เป็นประธานสอบวินัยข้าราชการโครงการไทยเข้มแข็งสธ.

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข ที่ถูกชี้มูลในโครงการไทยเข็มแข็งในผลการสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการชุดนายแพทย์บรรลุ ศิริพาณิช ว่า ภายในวันนี้จะลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย โดยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัย และประธานฯ ได้เสนอรายชื่อคณะกรรมการมาให้ทั้งหมด 6 ท่าน ซึ่งจะดำเนินการให้เป็นไปตามนั้น ประกอบด้วย 1.รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา 2.รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ 3.หัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักงานอัยการสูงสุด 4.ที่ปรึกษาระบบราชการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน 5.ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลังกรมบัญชีกลาง 6.ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานวินัยสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนเป็นกรรมการและเลขานุการ

นายจุรินทร์กล่าวว่า กรณีที่จะพักงานหรือโยกย้ายข้าราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเปิดทางการสอบสวนนั้น จะให้เป็นไปตามกฎระเบียบ ซึ่งกำหนดชัดเจนว่า กรณีที่จะพักราชการนั้น ต้องเป็นกรณีที่เป็นอุปสรรคหรือบุคคลท่านนั้นเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน เพราะฉะนั้นผู้ที่จะตอบได้ว่าใครเป็นอุปสรรคหรือไม่เป็นอุปสรรค ก็คือคณะ กรรมการสอบสวน ถ้าคิดว่าเป็นอุปสรรคท่านก็จะสามารถดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปได้ กรรมการจะรู้ดีที่สุดว่าเป็นหรือไม่เป็น กรณีที่จะมีการแยกการสอบสวน กรรมการสอบสวนก็จะสามารถไปแยกได้ และเดินหน้าต่อไปจนจบกระบวนการ

จะไม่ระบุระยะเวลาการสอบสวนว่าจะใช้เวลากี่วัน เพราะว่าแทนที่จะเป็นธรรม อาจจะไม่เป็นธรรมก็ได้ หรืออาจเกิดปัญหาก็ได้ เพราะว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง เพียงแต่ระบุว่าโดยเร็ว ซึ่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนทราบดีอยู่แล้ว เพราะท่านเป็นผู้คุมกฎและเป็นผู้เข้าใจกฎระเบียบดีที่สุด นายจุรินทร์กล่าว

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า จำนวนข้าราชการตามรายงานที่คณะสอบสวนข้อเท็จจริงรายงานมามี 8 ท่าน เป็นข้าราชการ 5 ท่าน อีก 3 ท่านไม่ได้เป็นข้าราชการ เพราะเกษียณไปแล้ว ก็ต้องส่งให้ ปปช. ตามที่คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงได้ให้ความเห็นไว้ โดยจะลงนามตามที่คณะกรรมการเสนอมา เมื่อคณะกรรมการชุดนั้นมีความเห็นว่าส่วนหนึ่งควรส่ง ปปช. ส่วนหนึ่งควรตั้งคณะกรรมการสอบสวนต่อไปซึ่งก็จะดำเนินการไปตามนั้น เพื่อดำเนิน การให้จบกระบวนการและให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรม

นายจุรินทร์กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้โครงการไทยเข้มแข็งกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินหน้าทบทวนโครงการฯไปแล้วส่วนใหญ่ ยังเหลือค้างคาอยู่บางส่วน ซึ่งก็จะดำเนินการต่อไป และทำให้จบ เพื่อจะได้เดินหน้าได้ อะไรที่ทบทวนแล้วและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย และทุกฝ่ายมั่นใจว่าเป็นไปด้วยความโปร่งใส ถูกต้องตามกฎระเบียบ ก็จะเดินหน้าไปได้ อะไรไม่ถูกต้อง ก็จะยกเลิกและระงับไป

นอกจากนี้นายจุรินทร์ยังกล่าวถึงเรื่องการให้ความช่วยเหลือด้านสุขภาพคนไร้สถานะว่า จะนำมาพิจารณาเป็นวาระเฉพาะในการประชุมกระทรวงสาธารณสุข และให้ความเห็นเรื่องนี้ต่อไป
******************************** 25 มกราคม 2553 แหล่งข่าวโดย.... สำนักสารนิเทศ [25/ม.ค/2553] (อาหารและสุขภาพ, Health channel, Health nutrition, Health article)

Related Posts:

Thai Health Article (Thailand) | RSS Subscribe | Go to top